ดูซีรี่ย์ 3 ดาวซานถี่ อุบัติการณ์สงครามล้างโลก Body Problem หลายสิบปีผ่านพ้นและอยู่ห่างไกลกันคนละฟาก เพื่อนรักห้าคนค้นพบบางสิ่งที่จะสั่นสะเทือนโลก ขณะที่กฎของวิทยาศาสตร์ได้รับการเปิดเผยและภัยคุกคามที่ไม่ควรเมินเฉยเริ่มปรากฏ ดูซีรี่ออนไลน์ series1441
เรื่องย่อซีรีส์ 3 Body Problem
ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ประเทศจีน หญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อ เย่เหวินเจี๋ย (Zine Tseng) นักวิชาการลูกสาวของนักวิชากรที่ถูกกำลังทหารควบคุม เธอคือผู้ส่งสัญญาณสื่อสารจากมนุษยชาติออกไปนอกโลก และเป็นคนสร้างแรงกระเพื่อมข้ามจักรวาลและห้วงเวลามายังยุคปัจจุบัน
ในเวลาปัจจุบัน เวร่า เย่ (Vedette Lim) โดนยกเลิกงานวิจัยและฆ่าตัวตาย ต่อมา เหล่าศิษย์คนโปรดทั้งหมดของเธอกำลังเผชิญกับเหตุเหลือเชื่อบางอย่าง
ดร.อ๊อกกี้ ซัลลาซาร์ (เอซ่า กอนซาเลซ/Eiza González จากหนังเรื่อง ‘I Care a Lot’ และ ‘Godzilla vs. Kong’) ผู้คิดค้นพัฒนาเส้นใยนาโน เริ่มมองเห็นภาพลวงตาแปลกๆ ที่เป็นนาฬิกานับถอยหลัง แม้เธอจะรู้ว่ามีคนอยากให้หยุดโครงการนี้แต่ไม่รู้ทำไม แล้วก็ยังมีนักวิทยาศาตร์อีกหลายคนบนโลกที่เห็นแบบเดียวกัน พวกเขาต่างเลิกทำงานไม่ก็ฆ่าตัวตาย
อีกสี่คน คือ จินเฉิง (เจส ฮอง/Jess Hong จากซีรีส์ ‘The Brokenwood Mysteries’) สาวเนิร์ดนักฟิสิกส์ที่เป็นเพื่อนซี้ของอ็อกกี้, ซอล ดูรานด์ (โยวัน อะเดโป/Jovan Adepo จากหนังเรื่อง ‘Overlord’) นักฟิสิกส์หนุ่มผิวดำที่ทำงานใกล้ชิดเวร่า, วิล ดาวนิ่ง (อเล็กซ์ ชาร์ป/Alex Sharp จากหนังเรื่อง ‘The Hustle’) อาจารย์สอนฟิสิกส์ที่เป็นมะเร็งตับอ่อนระยะที่สี่ และ แจ็ค รูนี่ย์ (จอห์น แบรดลีย์/John Bradley จากซีรีส์เรื่อง ‘Game of Thrones’) เพื่อนสุดร่ำรวยของพวกเขา ทั้งหมดกำลังเผชิญหน้าอยู่กับบางสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจและมุ่งมั่นจะไขปริศนา
ท่ามกลางความสับสนนั้น มี คลาเรนซ์ หรือ ต่าฉือ (เบเนดิกต์ หว่อง/Benedict Wong จากหนังเรื่อง ‘The Martian’) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองที่กำลังตามสืบเรื่องนี้อยู่ ภายใต้การดูแลของหัวหน้าอย่าง โทมัส เวด (เลียม คันนิ่งแฮม/Liam Cunningham จากหนัง ‘Clash of the Titans’)
รีวิวซีรีส์ ‘ดาวซานถี่ อุบัติการณ์สงครามล้างโลก’
ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือ ซึ่งชื่อไทยของมันก็ตั้งตามชื่อที่ใช้ในเวอร์ชันแปลแบบเป๊ะ ดั้งเดิมเป็นผลงานของ Cixin Liu หรือ หลิวฉือซิน ซึ่งก็ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยและแบ่งขายเป็น 3 เล่ม ใครอยากอ่านฉบับนิยายก็ลองหาซื้อกันดูนะครับ
เรื่องราวของมัน บอกเล่าว่า เราไม่ได้อยู่ตามลำพัง ห่างไปสี่ปีแสง มีดาวอีกหนึ่งดวงที่มีเทคโนโลยีเจริญและล้ำหน้าไปกว่าเราเยอะมาก แต่ก่อนที่ซีรีส์มันจะเล่าไปถึงขั้นนั้น มันอารัมภบทใส่ความลึกลับเข้ามาอย่างเต็มเปี่ยมตั้งแต่บทแรกกันเลยทีเดียว ซึ่งนายแพทก็พบว่า ในตอนที่ไม่ได้หาข้อมูลอะไรมาก่อนเลย และได้พบกับเรื่องราวในตอนแรกนี่ก็มีมึนอยู่ไม่น้อย ทุกอย่างเหมือนเป็นปริศนา ที่มาพร้อมกับการแนะนำตัวละคร และการเปิดเผยงานภาพที่ค่อนข้างน่าทึ่งอยู่ประมาณนึงเลย
มันย้อนเล่าไปถึงจีนยุคช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม ท่ามกลางการชุมนุมของเหล่ากบฎ ในช่วงเวลานั้น มีทั้งกระแสต่อต้านการศึกษาทฤษฎีของชนชาติตะวันตก รวมไปถึงหนังสือหรือเอกสารภาษาอังกฤษ ตัวละครสำคัญในตอนนั้นยังเป็นสาวอยู่ เธอคือ เย่เหวินเจี๋ย ลูกสาวของนักวิชาการที่ต้องมาเห็นพ่อถูกฆ่าตายต่อหน้า ทั้งยังถูกบีบให้เข้ามาร่วมกับทหารในโครงการส่งสัญญาณเพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ก่อนจะบอกกับเราว่า ในปัจจุบัน เธอกลายเป็นด็อกเตอร์เย่ (Rosalind Chao จากซีรีส์ ‘Sweet Tooth 2’) แม่ของเวร่าที่เพิ่งฆ่าตัวตายไป
ระหว่างนั้น มันก็หันไปเล่าเรื่องราวของเหล่านักฟิสิกส์ที่เป็นตัวละครสำคัญต่อการเดินเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น จินเฉิง หลานสาวของเธอที่พบกับหมวกอันแวววาวของเวร่า เมื่อเธอสวมมันแล้วพบกับอีกโลกหนึ่ง ลักษณะของมันช่างเป็นเกมอันแปลกประหลาดราวกับมันรู้ทุกอย่างของผู้สวมหมวก ก่อนที่เพื่อนรวยอย่าง แจ็ค รูนี่ย์ จะลองสวมบ้างหลังจากเขาได้รับกล่องประหลาดที่ไม่รู้ที่มา หลายตอนของซีรีส์ พาเราไปอึ้งและทึ่งกับโลกเสมือนที่ผู้เล่นจะต้องผ่านไปทีละด่าน แต่นั่นคือ เราไม่รู้เลยว่าเหตุผลที่มาที่ไปของหมวกและเกมคืออะไรจนมันผ่านไปเกือบครึ่งเรื่อง ภาพต่างๆ จึงเริ่มจะประกอบร่างจนชัดเจนขึ้นมา
มีบางตัวละครที่มีบทสำคัญไม่แพ้เหล่านักฟิสิกส์รุ่นใหม่ทั้งห้า ไม่ว่าจะเป็น ไมค์ อีแวนส์ (โจนาทาน ไพรซ์/Jonathan Pryce จากซีรีส์ ‘Slow Horses’) ชายผู้ร่ำรวยจากธุรกิจน้ำมัน เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ในทางใดก็ทางหนึ่ง แต่เป็นคนที่คลาเรนซ์เฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ก็ยังมี เย่เหวินเจี๋ย, โทมัส เวด และ คลาเรนซ์ แล้วก็ยังมี ทาทิอานา (Marlo Kelly จากซีรีส์ ‘Joe vs. Carole’) หญิงสาวลึกลับที่เข้าหาหลายตัวละครอย่างมีเลศนัยอีกด้วยนะ
เริ่มต้นจึงถึงตรงกลาง มันเป็นความอลหม่านที่ชักพาให้รู้สึกน่าประหลาดใจ น่าตื่นตา และชวนให้ติดตาม จากที่ไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรเท่าไหร่ ค่อยๆ ปะติดปะต่อจนเข้าใจองค์รวมว่า มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และตัวละครแต่ละตัวกำลังทำบทบาทใดในเรื่องนี้
ดูซีรี่ย์ 3 ดาวซานถี่ อุบัติการณ์สงครามล้างโลก Body Problem หลายสิบปีผ่านพ้นและอยู่ห่างไกลกันคนละฟาก เพื่อนรักห้าคนค้นพบบางสิ่งที่จะสั่นสะเทือนโลก ขณะที่กฎของวิทยาศาสตร์ได้รับการเปิดเผยและภัยคุกคามที่ไม่ควรเมินเฉยเริ่มปรากฏ ดูซีรี่ออนไลน์ series1441
เรื่องย่อซีรีส์ 3 Body Problem
ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ประเทศจีน หญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อ เย่เหวินเจี๋ย (Zine Tseng) นักวิชาการลูกสาวของนักวิชากรที่ถูกกำลังทหารควบคุม เธอคือผู้ส่งสัญญาณสื่อสารจากมนุษยชาติออกไปนอกโลก และเป็นคนสร้างแรงกระเพื่อมข้ามจักรวาลและห้วงเวลามายังยุคปัจจุบัน
ในเวลาปัจจุบัน เวร่า เย่ (Vedette Lim) โดนยกเลิกงานวิจัยและฆ่าตัวตาย ต่อมา เหล่าศิษย์คนโปรดทั้งหมดของเธอกำลังเผชิญกับเหตุเหลือเชื่อบางอย่าง
ดร.อ๊อกกี้ ซัลลาซาร์ (เอซ่า กอนซาเลซ/Eiza González จากหนังเรื่อง ‘I Care a Lot’ และ ‘Godzilla vs. Kong’) ผู้คิดค้นพัฒนาเส้นใยนาโน เริ่มมองเห็นภาพลวงตาแปลกๆ ที่เป็นนาฬิกานับถอยหลัง แม้เธอจะรู้ว่ามีคนอยากให้หยุดโครงการนี้แต่ไม่รู้ทำไม แล้วก็ยังมีนักวิทยาศาตร์อีกหลายคนบนโลกที่เห็นแบบเดียวกัน พวกเขาต่างเลิกทำงานไม่ก็ฆ่าตัวตาย
อีกสี่คน คือ จินเฉิง (เจส ฮอง/Jess Hong จากซีรีส์ ‘The Brokenwood Mysteries’) สาวเนิร์ดนักฟิสิกส์ที่เป็นเพื่อนซี้ของอ็อกกี้, ซอล ดูรานด์ (โยวัน อะเดโป/Jovan Adepo จากหนังเรื่อง ‘Overlord’) นักฟิสิกส์หนุ่มผิวดำที่ทำงานใกล้ชิดเวร่า, วิล ดาวนิ่ง (อเล็กซ์ ชาร์ป/Alex Sharp จากหนังเรื่อง ‘The Hustle’) อาจารย์สอนฟิสิกส์ที่เป็นมะเร็งตับอ่อนระยะที่สี่ และ แจ็ค รูนี่ย์ (จอห์น แบรดลีย์/John Bradley จากซีรีส์เรื่อง ‘Game of Thrones’) เพื่อนสุดร่ำรวยของพวกเขา ทั้งหมดกำลังเผชิญหน้าอยู่กับบางสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจและมุ่งมั่นจะไขปริศนา
ท่ามกลางความสับสนนั้น มี คลาเรนซ์ หรือ ต่าฉือ (เบเนดิกต์ หว่อง/Benedict Wong จากหนังเรื่อง ‘The Martian’) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองที่กำลังตามสืบเรื่องนี้อยู่ ภายใต้การดูแลของหัวหน้าอย่าง โทมัส เวด (เลียม คันนิ่งแฮม/Liam Cunningham จากหนัง ‘Clash of the Titans’)
รีวิวซีรีส์ ‘ดาวซานถี่ อุบัติการณ์สงครามล้างโลก’
ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือ ซึ่งชื่อไทยของมันก็ตั้งตามชื่อที่ใช้ในเวอร์ชันแปลแบบเป๊ะ ดั้งเดิมเป็นผลงานของ Cixin Liu หรือ หลิวฉือซิน ซึ่งก็ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยและแบ่งขายเป็น 3 เล่ม ใครอยากอ่านฉบับนิยายก็ลองหาซื้อกันดูนะครับ
เรื่องราวของมัน บอกเล่าว่า เราไม่ได้อยู่ตามลำพัง ห่างไปสี่ปีแสง มีดาวอีกหนึ่งดวงที่มีเทคโนโลยีเจริญและล้ำหน้าไปกว่าเราเยอะมาก แต่ก่อนที่ซีรีส์มันจะเล่าไปถึงขั้นนั้น มันอารัมภบทใส่ความลึกลับเข้ามาอย่างเต็มเปี่ยมตั้งแต่บทแรกกันเลยทีเดียว ซึ่งนายแพทก็พบว่า ในตอนที่ไม่ได้หาข้อมูลอะไรมาก่อนเลย และได้พบกับเรื่องราวในตอนแรกนี่ก็มีมึนอยู่ไม่น้อย ทุกอย่างเหมือนเป็นปริศนา ที่มาพร้อมกับการแนะนำตัวละคร และการเปิดเผยงานภาพที่ค่อนข้างน่าทึ่งอยู่ประมาณนึงเลย
มันย้อนเล่าไปถึงจีนยุคช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม ท่ามกลางการชุมนุมของเหล่ากบฎ ในช่วงเวลานั้น มีทั้งกระแสต่อต้านการศึกษาทฤษฎีของชนชาติตะวันตก รวมไปถึงหนังสือหรือเอกสารภาษาอังกฤษ ตัวละครสำคัญในตอนนั้นยังเป็นสาวอยู่ เธอคือ เย่เหวินเจี๋ย ลูกสาวของนักวิชาการที่ต้องมาเห็นพ่อถูกฆ่าตายต่อหน้า ทั้งยังถูกบีบให้เข้ามาร่วมกับทหารในโครงการส่งสัญญาณเพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ก่อนจะบอกกับเราว่า ในปัจจุบัน เธอกลายเป็นด็อกเตอร์เย่ (Rosalind Chao จากซีรีส์ ‘Sweet Tooth 2’) แม่ของเวร่าที่เพิ่งฆ่าตัวตายไป
ระหว่างนั้น มันก็หันไปเล่าเรื่องราวของเหล่านักฟิสิกส์ที่เป็นตัวละครสำคัญต่อการเดินเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น จินเฉิง หลานสาวของเธอที่พบกับหมวกอันแวววาวของเวร่า เมื่อเธอสวมมันแล้วพบกับอีกโลกหนึ่ง ลักษณะของมันช่างเป็นเกมอันแปลกประหลาดราวกับมันรู้ทุกอย่างของผู้สวมหมวก ก่อนที่เพื่อนรวยอย่าง แจ็ค รูนี่ย์ จะลองสวมบ้างหลังจากเขาได้รับกล่องประหลาดที่ไม่รู้ที่มา หลายตอนของซีรีส์ พาเราไปอึ้งและทึ่งกับโลกเสมือนที่ผู้เล่นจะต้องผ่านไปทีละด่าน แต่นั่นคือ เราไม่รู้เลยว่าเหตุผลที่มาที่ไปของหมวกและเกมคืออะไรจนมันผ่านไปเกือบครึ่งเรื่อง ภาพต่างๆ จึงเริ่มจะประกอบร่างจนชัดเจนขึ้นมา
มีบางตัวละครที่มีบทสำคัญไม่แพ้เหล่านักฟิสิกส์รุ่นใหม่ทั้งห้า ไม่ว่าจะเป็น ไมค์ อีแวนส์ (โจนาทาน ไพรซ์/Jonathan Pryce จากซีรีส์ ‘Slow Horses’) ชายผู้ร่ำรวยจากธุรกิจน้ำมัน เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ในทางใดก็ทางหนึ่ง แต่เป็นคนที่คลาเรนซ์เฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ก็ยังมี เย่เหวินเจี๋ย, โทมัส เวด และ คลาเรนซ์ แล้วก็ยังมี ทาทิอานา (Marlo Kelly จากซีรีส์ ‘Joe vs. Carole’) หญิงสาวลึกลับที่เข้าหาหลายตัวละครอย่างมีเลศนัยอีกด้วยนะ
เริ่มต้นจึงถึงตรงกลาง มันเป็นความอลหม่านที่ชักพาให้รู้สึกน่าประหลาดใจ น่าตื่นตา และชวนให้ติดตาม จากที่ไม่ค่อยจะเข้าใจอะไรเท่าไหร่ ค่อยๆ ปะติดปะต่อจนเข้าใจองค์รวมว่า มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และตัวละครแต่ละตัวกำลังทำบทบาทใดในเรื่องนี้